คณะผู้บริหารและบุคลากรจากคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา จำนวน 9 คน นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูสิต กุลเกษม คณบดีคณะวิทยาการสารสนเทศ และ รองศาสตราจารย์ กฤษณะ ชินสาร ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออก ได้เข้าร่วมประชุมวิชาการระดับนานาชาติ 30th IEEE/ACIS International Conference on Software Engineering, Artificial Intelligence, Networking and Parallel/Distributed Computing ณ หอประชุม Fukui Prefecture International Exchange Hall เมืองฟุกุอิ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และขับเคลื่อนความร่วมมือทางวิชาการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสังคมภายในงานมีการบรรยายพิเศษโดย Prof. Yeong-Tae Song (Keynote Speaker) จาก Towson University ประเทศสหรัฐอเมริกา ในหัวข้อ “Personal Health Coaching Framework Using Digital Twin and On-Device AI” ซึ่งกล่าวถึงการใช้ข้อมูลสุขภาพจากแหล่งต่าง ๆ ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพแบบรายบุคคลในลักษณะเรียลไทม์ โดยในช่วงการเสวนา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อธิตา อ่อนเอื้อน ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงลึกในประเด็นข้อจำกัดด้านข้อมูล ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อโครงการความร่วมมือด้านการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐเกาหลีที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data เพื่อการจัดการด้านระบาดวิทยาในระดับสากลคณะฯ ได้นำเสนอผลงานวิจัยจำนวน 6 เรื่อง ได้แก่• ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณฐัพร ภักดี – Exploratory Analysis of Software Engineering Skill in Thailand’s Software Industry Using NLP Techniques
• นางสาวสิริภัทร ตันเสวตวงษ์ – Towards eID Authentication: Readiness Assessment System for ThaID Integration
• ดร.วัชรพงษ์ อยู่ขวัญ – Automated Optical Marker Exam Recognition using Cross-Linear Area Detection from Smartphone Camera
• อาจารย์จิรายุ อาบกิ่ง – TOI National Grader: A Support System for the Selection and Preparation of Thailand Informatics Olympiad Participants
• ดร.วิโรจน์ ชมภู – Human-Centric Software Co-Designed Framework for Competency Evaluations
• ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พีระศักดิ์ เพียรประสิทธิ์ – Machine Learning-Based API Framework for Adaptive Programming Learning Using Educational Programming Features
การนำเสนอผลงานวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงบทบาทที่เข้มแข็งของคณะฯ ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะหัวข้อด้านความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐในการเชื่อมโยงระบบยืนยันตัวตนดิจิทัล (ThaID) ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก และสอดคล้องกับแนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลภาครัฐ (e-Government) ในระดับโลก อีกทั้งยังได้รับข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์จากนักวิชาการนานาชาติ เพื่อใช้ในการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยในอนาคตผู้ช่วยศาสตราจารย์ภูสิต กุลเกษม คณบดีคณะวิทยาการสารสนเทศ และ รองศาสตราจารย์กฤษณะ ชินสาร ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา ได้หารือกับผู้แทนของสมาคมนานาชาติด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ (International Association for Computer and Information Science: ACIS) เพื่อเชิญมาจัดงานประชุมวิชาการที่ประเทศไทยพร้อมวางแผนการดำเนินงานร่วมกันในอนาคต ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของประเทศไทยที่มีความเคลื่อนไหวในวงการวิชาการระดับโลกอย่างต่อเนื่องต่อเนื่องในวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 คณะฯ ได้เดินทางไปยัง Tokyo University of Technology (วิทยาเขต Hachioji) กรุงโตเกียว เพื่อเข้าร่วมพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยบูรพาและ Tokyo University of Technology โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภูสิต กุลเกษม คณบดีคณะวิทยาการสารสนเทศ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยบูรพาในการลงนาม พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์กฤษณะ ชินสาร ผู้อำนวยการเขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ภาคตะวันออก มหาวิทยาลัยบูรพา และผู้บริหารของคณะฯ ร่วมเข้าร่วมและหารือแนวทางความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ครอบคลุมการแลกเปลี่ยนนิสิตและบุคลากร การพัฒนาหลักสูตรร่วม และการดำเนินโครงการวิจัยร่วมในสาขาสำคัญ อาทิ วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ปัญญาประดิษฐ์ และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ การประชุมหารือร่วมกันช่วยเปิดโอกาสให้ผู้แทนของทั้งสองมหาวิทยาลัยได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับทิศทางการวิจัยและการพัฒนาการเรียนการสอน ซึ่งนำไปสู่การกำหนดแผนปฏิบัติการในระยะเริ่มต้น ได้แก่ การจัดทำวิจัยร่วมกันระหว่างบุคลากร และการฝึกอบรม/แลกเปลี่ยนระยะสั้นสำหรับนิสิตของทั้งสองสถาบัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในการผลักดันคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้มีบทบาทในระดับนานาชาติมากขึ้น โดยเฉพาะการพัฒนางานวิจัยด้าน Software Engineering ด้าน AI และด้าน Cybersecurity ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของคณะฯ ในการยกระดับคุณภาพการศึกษา (SDG 4) และสร้างความเชื่อมโยงกับเมืองแห่งนวัตกรรมและความรู้ (SDG 11) เพื่อรองรับการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัลโดยสรุป ภารกิจในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในด้านการนำเสนอผลงานวิชาการในเวทีระดับนานาชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านวิจัยและการศึกษา พร้อมทั้งวางรากฐานในการพัฒนาศักยภาพของนิสิตและบุคลากรของคณะฯ ให้สามารถดำเนินบทบาทในเวทีวิชาการระดับสากลได้อย่างมั่นคง สอดคล้องกับพันธกิจของคณะวิทยาการสารสนเทศในการ ขับเคลื่อนนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
